แนะนำกีตาร์กีตาร์โปร่ง
กีตาร์โปร่ง (Acoustic guitar)
1.เริ่มต้นด้วยยี่ห้อ Norton เริ่มต้นที่หนึ่งพันปลายๆ ตัวนี้ผมลองเล่นดูแล้วจัดว่าใช้ได้กับราคาระดับนี้ สัมผัสก็พอได้อยู่ เสียงก็จัดว่าไม่เพี้ยนครับ(ไม่แน่ใจว่ามาตรฐานทุกตัวหรือเปล่าต้องลองเล่นดูก่อนตัดสินใจซื้อ) งานไม้ถือว่าดีระดับหนึ่งครับดีกว่ากีตาร์ยี่ห้อดังรุ่นต่ำๆอีกนะผมว่า ไม้หน้าเป็น Laminate(ประเภทไม้อัด)
2. Vinyard : ราคาเริ่มต้นที่สองพันต้นๆ ถึงหมื่นกว่าบาท ขึ้นกับ Specification งานดี เสียงก็ใช้ได้เลยที่เดียว งานมาตรฐานรุ่นที่แนะนำ
รุ่น DG 2011,DG 22 ราคาสองพันและสามพันต้นๆ ไม้หน้าทำจาก Laminate(มีหลายรุ่นลองเล่นดูกันครับ)
รุ่น MFG-400 ตัวนี้ไม้หน้าเป็น Top solid(Cedar) ราคาหมื่น บวกลบแล้วแต่ร้าน
3.veelah : ยี่ห้อนี้งานดีใช้ได้ เสียงโอเคครับ รุ่นที่แนะนำก็ V1 series ครับเช่น V1D ครับ ราคาก็ห้าพันบาทบวกลบ ถ้ารุ่นไฟฟ้าก็เพิ่มอีกพันกว่าบาท ได้ไม้หน้าจริง(ไม้สน)Top solid spruce
4.Aria : เป็นกีตาร์ที่ราคาไม่แพงครับ เมื่อเทียบกับสเปคที่ได้ คุณภาพงานก็ถือว่าดีครับ เสียงต้องลองสัมผัสกันดูว่าชอบหรือเปล่า
5.Yamaha F310 ถ้าไม่อยากคิดมากก็นี่แหละครับหาง่ายมีขายเกือบทุกร้าน เสียงนุ่มๆตามแบบพี่ใหญ่เค้า(ต้องดูงานด้วยนะครับ บางตัว QC มาไม่ดี ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วเพราะผลิตจากหลายๆที่) ราคาประมาณ 4 พันบวก/ลบ ราคานี้ทำจาก Laminate เพราะเป็นตัวล่างๆ
กีตาร์โปร่งรูปทรงต่างๆ
เวลาเราเห็นกีตาร์โปร่งตามร้านขายเครื่อง หรือเห็นนักดนตรีเล่นบนเวที ก็จะสังเกตเห็นได้ว่ามีทั้งกีตาร์ตัวเล็ก ตัวใหญ่ ตัวบาง หรือบางตัวก็หนา หลายๆท่านอาจจะเกิดความสงสัย วันนี้เราจะมาพูดถึงกีตาร์รูปร่างหรือรูปทรงต่างๆ เพื่อจะได้ สามารถแยกแยะได้ครับ รูปทรงแรกที่จะแนะนำคือ
ทรง Dreadnough
อ่านว่า “เดรดนอท” กีตาร์ยี่ห้อแรกที่ทำทรงนี้ออกมาคือ Martin ในเวลาต่อมาก็มีหลายยี่ห้อทำทรงนี้ออกมาจำหน่ายกัน กีตาร์รุ่นนี้มีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีความหนาพอประมาณ ทำให้มีเสียงที่มีความดังกังวานพอประมาณ เสียงไม่แหลมหรือทุ้มจนเกินไปจึงเป็นรูปทรงที่ได้รับความนิยมพอสมควร

-Slim art body ตัวบางๆ เสียงไม่ค่อยกังวาน แต่เสียงคม ใสใครมีไว้ครอบครองแนะนำให้ต่อเสียงออกตู้ลำโพงดู รับรองว่าแจ่มครับ
-Archtop guitar
บางรุ่นไม่มีช่องเสียง (Sound Hole) บางรุ่นเป็นรูปตัว f คล้ายๆกับช่องเสียงของไวโอลีน ราคาถูกแพงแล้วแต่ยี่ห้อ ถ้าสนใจใจก็ลองไปฟังเสียงได้ตามร้านกีตาร์
ทรง Baby

ทรง Baby
กีตาร์ทรงนี้จะมีขนาดเล็ก ออกแบบมาสำหรับเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นได้ ถึงแม้จะมีขนาดจะเล็กแต่ก็มีความกังวานพอตัวที่เดียวแต่ก็น้อยกว่าทรง Dreadnough มิติเสียงออกแหลมนิดๆ เนื่องจากมีขนาดที่เล็ก ส่วนยี่ห้อที่ทำทรงทรงนี้ออกมาขายที่ขายดีคือยี่ห้อ Taylor baby ขนาด 3/4 ราคา 15,000 บาท (บวก-ลบ แล้วแต่ร้าน)

แนะนำสายกีตาร์โปร่ง
สายกีตาร์โปร่งมีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็มีหลายขนาดตั้งแต่เบอร์เล็กๆ อย่างเบอร์ 9 จนถึงเบอร์ 12 (ใหญ่กว่าเบอร์ 12 ก็มี) มีทั้งแบบธรรมดา ทั้งแบบเคลือบกันสนิม แล้วแต่ความชื่นชอบของนักกีตาร์ เช่นยี่ห้อ D'addario (แด๊ด-ดาริโอ), Elixir(อีลิกเซอร์), Dean Markley, Martin, Ernie Ball (เออร์นี่บอล), Fender, Gibson, GHS, DR
คุณสมบัติโดยทั่วไปของสายกีตาร์โปร่ง จะทำหน้าที่สั่นสะเทือนทำให้เกิดเสียง ทำให้เกิดการสั่นพ้องของตัวกีตาร์ สั่นสะเทือนดีเสียงก็ดีตาม ดังนั้นนั้นสายกีตาร์จึงมีผลกับเสียงของกีตาร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เนื่องจากสายกีตาร์ทำจากโลหะดังนั้นเมื่อโลหะสัมผัสกับอากาศจึงมีการเกิดสนิมขึ้น ยิ่งถ้าเราไม่ล้างมือก่อนเล่นหรือไม่เช็ดสายหลังเล่นกีตาร์ เหงื่อที่มือจะยิ่งทำให้เกิดสนิมได้เร็วขึ้น แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อระยะเวลาเกิดสนิมก็แตกต่างกันไปเพราะส่วนผสมของวัสดุที่ใช้ทำสายกีตาร์นั้นแตกต่างกัน จึงมีผู้ผลิตทำสายกีตาร์ที่เคลือบสารกันสนิมไว้ ทำให้เป็นสนิมน้อยลงหรือช้าลง ในแง่ของคุณภาพเสียงสายกีตาร์ที่ไม่ได้เคลือบสายกันสนิม จะมีคุณสียงที่ดีกว่า เพราะการสั่นสะเทือนเป็นธรรมชาติกว่าสายที่เคลือบสารกันสนิม แต่อายุการใช้งานก็จะสั้นกว่า เสื่อมคุณภาพเร็วกว่า บางยี่ห้อก็ทำเคลือบแบบบางพิเศษ ทนสนิมแต่ให้เสียงใกล้เคียงกับสายแบบไม่เคลือบก็มี (ราคาก็พิเศษตามไปด้วยครับ) บางผู้ผลิตก็คิดค้นสายกีตาร์ที่ไม่ได้เคลือบสาร แต่เกิดสนิมได้ช้าลง ใช้งานได้ นานขึ้น เช่น สายยี่ห้อ Newtone ผลิตภัณฑ์จากประอังกฤษ (ราคาประมาณ 400 บาท)
โดยทั่วไปสายกีตาร์ก็จะมีอายุการใช้งาน ควรเปลี่ยนเมื่อเสื่อมสภาพ ถ้าเป็นมืออาชืพเล่นทุกวัน สายก็จะเสื่อมเร็วเป็นธรรมดา อาทิตย์หนึ่งเปลี่ยนทีก็มี บางคนเล่นไม่บ่อยและหมั่นเช็ดทำความสะอาด อาจใช้ได้เป็นปีก็มี ถ้าสายกีตาร์เสื่อมแล้วมีผลอย่างไรบ้างอย่างแรกคือ คุณภาพเสียงแย่ลง อย่างที่สองคือสายจะขาดง่าย ส่วนขนาดของสายกีตาร์ ปกติแล้วสายกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเสียงก็จะหนาและกังวานกว่ากีตาร์ที่ใช้สายเล็ก และขาดยากกว่าด้วย เสียงเบสก็ทุ้มกว่า แต่ข้อเสียของกีตาร์เส้นใหญ่ๆก็คือต้องใช้แรงกดแยะกว่า มือใหม่ๆเล่นแล้วเจ็บมือแน่นอน เบอร์ของสายกีตาร์สำหรับมือใหม่หัดเล่นก็ควรจะเล่นเบอร์ 9 หรือเบอร์ 10 (ไม่ควรเกินเบอร์ 11) เล่นแล้วจะออกแรงกดไม่เยอะ เล่นสบายมือ ส่วนมือเก่าแล้วยากได้เสียงที่หนาและดุดันขึ้นก็เล่นเบอร์ 12 หรือใหญ่กว่าได้ครับ พอมาถึงตรงนี้ก็จะพูดถึงสายกีตาร์ที่เป็นที่นิยมกันในหมู่นักกีตาร์ทั่วไปมีดังนี้
-สายกีตาร์ยี่ห้อ Martin – มาร์ติน ยี่ห้อนี้จัดว่าคุณภาพสียงดีมากเลยทีเดียว ราคาไม่แพงมาก เสียงที่ออกมาเสียงหนาดีใช้ได้ เสียงดุดันพอตัว ให้เสียงเบสทุ้มใช้ได้ จัดว่าเสียงดีครับ แต่ต้องขยันเช็ดสายเป็นพิเศษเนื่องจาก เป็นสนิมง่ายไปหน่อย ราคาเริ่มต้นที่ 240 - 900 บาท แล้วแต่รุ่น
-สายกีตาร์ยี่ห้อ D'addario (แด๊ด-ดาริโอ) เป็นที่นิยมไม่ไช่น้อยในหมู่นักกีตาร์เนื่องจาก เสียงดีครับ เสียงนุ่มนวลฟังสบายหู เสียงหวานนิดๆ สายขาดยากไม่ว่าจะผ่อนสายหรือขึงสายรับแรงบิดได้ดี (จัดว่าเหนียว) เล่นแล้วนุ่มมือด้วย ราคาอยู่ที่ 200 - 800 บาท แล้วแต่รุ่น
-สายกีตาร์ยี่ห้อ Ernie Ball (เออร์นี่บอล) ใครชอบเสียงกีตาร์หวานๆ เสียงใสๆ ฟุ้งฟิ้ง และอบอุ่น(เสียง warm) ไม่ควรพลาด ราคาอยู่ที่ 220 - 600 บาท แล้วแต่รุ่น แต่ต้องเบามือนิดนึงถ้าใช้สายเบอร์เล็ก ถ้าเล่นแบบดุดันต้องเพิ่มขนาดสายหน่อยเป็นใช้ได้
- สายกีตาร์ยี่ห้อ Gibson ยี่ห้อนี้เห็นบ่อย(เวลาเข้าร้านเครื่องเขียนก็จะวางคู่กับยี่ห้อ ซูซูกิ) เป็นสายกีตาร์ที่คุณภาพพอใช้ได้ทีเดียว เสียงออกติดแหลมนิดๆ ใสพอตัว จัดว่าทนทานอยู่ ราคาไม่แพง ที่สำคัญคือ ซื้อแยกสายได้ด้วย สายไหนขาดก็ซื้อสายนั้น “โอ้...มันยอดมากเลยจอร์ท”
-สายกีตาร์ยี่ห้อ Elixir ยี่ห้อนี้ก็คุณภาพเสียงจัดว่าดีมากครับ แต่จะเด่นเสียงแหลมถึงกลาง เสียงเบสไม่ค่อนแน่นเท่าไหร่ ต้องใช้สายกีตาร์เบอร์ใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ เรื่องราคาก็อยู่ที่ 500-600 บาทต่อชุด มีรุ่นย่อมเยาว์ด้วย ราคา 100 - 200 บาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ต้องกังวลมากครับ เรื่องการเลือกใช้สายกีตาร์ ถ้างบน้อยเล่นพอใจกับเสียงที่ได้ก็จบ แต่ถ้าได้เปลี่ยนสายกีตาร์ก็ควรลองสายหลายๆยี่ห้อ หลายๆ รุ่นดู เพื่อจะได้รู้ว่าเสียงแบบไหนที่เราชอบ
ฝากติดบล็อกที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องความงานที่บล็อกนี้ด้วยนะ
⤋⤋⤋
biwbiwbiwbiw.blogspot.com
ขอขอบคุณ ⟹http://guitarbasic.net/2016-02-05-07-04-20/179-2016-02-05-07-12-06